นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผตง.) ได้ให้สัมภาษณ์สด ในรายการ “เปิดโต๊ะข่าว”กับพิธีกรข่าว  คุณเสถียร วิริยะพรรณพงศา  คุณปรารถนา  พรมพิทักษ์ และคุณฉัตรลดา ชูคง  ทางช่อง PPTV HD 36 Live เพื่อชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับยึดหลัก “อำนวยความสะดวกประชาชนเป็นสำคัญ” และปฏิบัติตามแนวทางอย่างถูกต้อง ชัดเจน และไม่สับสน โดยระบุว่า การช่วยเหลือมี 3 รายการสำคัญที่ต้องแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แยกการยื่นขอรับการช่วยเหลือแตกต่างกัน คือ

1. การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแบบเหมาจ่ายครัวเรือนละ 9,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ลดการใช้เอกสาร โดย

1) ใช้เพียงบัตรประชาชน หรือเลขประจำตัว 13 หลัก

2) ไม่ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ราชการออกให้ ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0201.5/ว 1010   ลงวันที่ 30 มีนาคม 2563  เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติในการงดเรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน หนังสือฉบับนี้เป็นแนวทางให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติ เพื่ออำนวยความสะดวก ลดภาระประชาชน และใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาครัฐแทนการขอสำเนาเอกสารต่าง ๆ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ฯ

3) ผู้เช่าบ้าน – ผู้เช่าหอพัก ทุกคนที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิได้รับเงินเยียวยาเบื้องต้นทุกคน

2. เงินซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ใช้สำหรับการซ่อมบ้านที่เสียหายจากอุทกภัย มีหลักเกณฑ์และหลักฐานจำเป็นชัดเจน
เจ้าของบ้านเป็นผู้ยื่นขอรับการซ่อมแซมบ้านหรือผู้เช่าสามารถยื่นขอค่าเสียหายในส่วนของทรัพย์สินส่วนตัวในบ้าน เช่าได้แต่ไม่สามารถยื่นซ่อมแซมบ้านที่เสียหายซ้ำซ้อนกับเจ้าของบ้านได้  โดยใช้หลักฐานยืนยันการอยู่อาศัยจริง เช่น การรับรองจากผู้นำชุมชน ผู้ดูแลที่พัก หรือ เจ้าของบ้าน

3. เงินช่วยเหลือกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วม หลักฐานสำคัญที่สุด คือใบมรณะบัตร ที่ออกโดยหน่วยงานราชการ ทั้งที่เสียชีวิตในสถานพยาบาลหรือในที่เกิดเหตุ หากเอกสารระบุความเกี่ยวเนื่องกับเหตุอุทกภัยน้ำท่วม   สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือได้ทันที

ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยืนยันแนวทางการตรวจสอบกรณีอุทกภัยน้ำท่วมครั้งนี้ “จะไม่เป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือประชาชน” และพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานโดยสุจริต และยินดีให้คำแนะนำเมื่อเกิดข้อสงสัย และยืนยันว่าจัดตั้งทีมงาน สตง. ประจำทุกจังหวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อสอบถามได้ทันที พร้อมร่วมมือกัน 5 หน่วยงานตรวจสอบ ได้แก่ สตง., ป.ป.ช., ป.ป.ท., ป.ป.ง., และตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อป้องกันทุจริตและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ในทุกกรณีหากพบการทุจริต

Date 4 ธันวาคม 2568
แหล่งที่มา www.thailandplus.