สตง. ร่วมขับเคลื่อนพัฒนางานตรวจสอบในภูมิภาคเอเชีย ผ่านภารกิจ SME ในการประชุม Audit Review Meeting ของ ASOSAI CDP 2024–2025 ณ กรุงจาการ์ตา

 

ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นายมณเฑียร เจริญผล ที่มุ่งเสริมสร้างบทบาทของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินบนเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในด้านการสร้างความร่วมมือ การแบ่งปันความรู้ และการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย ซึ่ง สตง.ไทยได้มีส่วนร่วมสำคัญในโครงการระยะยาวของ ASOSAI อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2568 สตง. โดย ดร.สุทธิ สุนทรานุรักษ์ ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค (สตภ.1) ได้รับเชิญจาก สตง.ญี่ปุ่น (ผู้รับผิดชอบโครงการ) ให้ปฏิบัติภารกิจในฐานะ Subject Matter Expert (SME) ภายใต้โครงการ ASOSAI Capacity Development Program (CDP) 2024–2025: “Dealing with Fraud and Corruption in Auditing” ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการตรวจสอบการทุจริตให้แก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาค ASOSAI ดำเนินต่อเนื่องกว่า 1 ปีครึ่ง จนเสร็จสิ้นโครงการในวันที่ 5 ธันวาคม 2568

 

การประชุม Audit Review Meeting ครั้งสุดท้ายจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1–5 ธันวาคม 2568 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อสรุปผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการของประเทศสมาชิก

 

ทั้งนี้ตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญโครงการนี้ได้ทำหน้าที่สำคัญ ดังนี้:

 

1. ออกแบบ Simulation Case Study ด้วยการประยุกต์ใช้ AI โดยรับผิดชอบออกแบบสถานการณ์จำลองเพื่อใช้เป็นเครื่องมือฝึกทักษะผู้ตรวจสอบในประเด็นการทุจริตในรายงานทางการเงิน การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการหาสัญญาณความผิดปกติ (Red flag) โดยเน้นใช้ Generative AI ช่วยออกแบบสถานการณ์จำลองที่มีความซับซ้อนและใกล้เคียงสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ตรวจสอบมีโอกาสฝึกวิเคราะห์และตัดสินใจในสถานการณ์ที่คล้ายกับภาคปฏิบัติจริง

 

แนวคิดนี้สอดคล้องกับวิธีการสมัยใหม่ที่ได้รับการยอมรับ เช่น โครงการ Red Flags Simulation ของ Singapore Management University (SMU) ซึ่งใช้ AI พัฒนากรณีศึกษาเพื่อฝึกทักษะ Forensic Audit

 

2. ให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์กับประเทศสมาชิก โดยในทุกช่วงของการประชุม ในฐานะ SME ได้ร่วมรับฟังและให้ข้อเสนอแนะเชิงวิชาการที่สร้างสรรค์ในบรรยากาศของความร่วมมือแก่ประเทศสมาชิก โดยข้อคิดเห็นข้างต้นช่วยสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกสามารถนำแนวคิดไปต่อยอดได้ตามบริบทของตนเอง

 

บทบาทนี้สร้างผลลัพธ์ทั้งในแง่ความร่วมมือและการพัฒนางานตรวจสอบในระดับภูมิภาค ดังนี้:

 

1. ช่วยยกระดับเครื่องมือการเรียนรู้ของภูมิภาค โดยการพัฒนา Simulation Case ที่ใช้ AI ช่วยให้ประเทศสมาชิกมีเครื่องมือการฝึกอบรมที่ทันสมัย และสามารถประยุกต์ใช้ในหลายรูปแบบของงานตรวจสอบทุจริต

 

2. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน โดยข้อเสนอแนะได้จุดประกายให้เกิดการสนทนาและแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกระหว่างประเทศสมาชิก ทำให้ภูมิภาคเข้มแข็งขึ้นโดยรวม

 

3. สะท้อนบทบาทของ สตง.ไทยในฐานะผู้สนับสนุนภูมิภาค โดยภารกิจครั้งนี้เน้นย้ำว่า สตง.ไทยภายใต้การนำของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสนับสนุนการทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกในลักษณะ “เพื่อนร่วมพัฒนา” ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของสตง.ไทยตามนโยบายของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน