2568-11-17 องค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทยรับตำแหน่งรองประธาน ASEANSAI ในการประชุมสุดยอดองค์กรตรวจเงินแผ่นดินแห่งอาเซียน (ASEANSAI Summit) ครั้งที่ 8 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
องค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทยรับตำแหน่งรองประธาน ASEANSAI ในการประชุมสุดยอดองค์กรตรวจเงินแผ่นดินแห่งอาเซียน (ASEANSAI Summit) ครั้งที่ 8 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ - ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ใหม่ “Smart, Sustainable, and Collaborative ASEANSAI” สู่ องค์กรตรวจเงินแผ่นดิน ยุคดิจิทัลและยั่งยืน
องค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย นำโดย นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และ นายคณพศ หงสาวรางกูร รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์กรตรวจเงินแผ่นดินแห่งอาเซียน (ASEANSAI Summit) ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม Parkroyal Collection Marina Bay สาธารณรัฐสิงคโปร์ วัตถุประสงค์ของการประชุม การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินงานขององค์กรในปี 2024 - 2025 และพิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่
1. รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2025 (Annual Results Report)
2. แผนยุทธศาสตร์ ASEANSAI 2026–2029
3. การปรับปรุงระเบียบและข้อบังคับ ASEANSAI ฉบับที่ 5 (Rules & Procedures 5th Revision)
4. กรอบการพัฒนาศักยภาพบุคลากร (Capacity Building Frameworks)
5. การแต่งตั้งประธานและรองประธาน ASEANSAI ชุดใหม่
6. การอนุมัติงบประมาณดำเนินงานปี 2026–2027
พิธีเปิดและการกล่าวต้อนรับ พิธีเปิดจัดขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 โดยได้รับเกียรติจาก • Ms. Indranee Rajah รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแห่งสิงคโปร์ กล่าวเปิดงาน • H.E. Ng Wai Choong ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสิงคโปร์ กล่าวต้อนรับในฐานะ รองประธาน ASEANSAI • ผู้แทน H.E. Gamaliel A. Cordoba ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินฟิลิปปินส์ และ ประธาน ASEANSAI กล่าวเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ
ยุทธศาสตร์ใหม่ของ ASEANSAI: มุ่งสู่ความร่วมมือ นวัตกรรม และความยืดหยุ่น ที่ประชุมเห็นชอบ แผนยุทธศาสตร์ ASEANSAI 2026–2029 ภายใต้แนวคิด “เสริมสร้างความร่วมมือ ส่งเสริมนวัตกรรม และยกระดับความยืดหยุ่นขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในภูมิภาค” (Strengthening Cooperation, Fostering Innovation, and Building Resilience) ยุทธศาสตร์ดังกล่าวมุ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล และการปรับตัวต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม โดยมีเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่
1. เสริมสร้างสมรรถนะและความพร้อมขององค์กรตรวจเงินแผ่นดิน (Collaborative and Responsive Capacity Development) o พัฒนาองค์ความรู้และทักษะของผู้ตรวจสอบให้เท่าทันเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Big Data, และระบบตรวจสอบดิจิทัล o ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกผ่าน e-learning และ ASEANSAI Academy
2. ยกระดับคุณภาพและความเข้มแข็งของการแบ่งปันองค์ความรู้ (Knowledge Sharing and Services) o สร้างแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เช่น Virtual Workshops, Cooperative Research, และ Webinars o เน้นหัวข้อ ประเด็นอุบัติใหม่ (Emerging Issues) เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล หนี้สาธารณะ และการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม
3. ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและนานาชาติ (Strategic Partnerships and Cooperation) o เชื่อมโยงยุทธศาสตร์กับกรอบการทำงานของ ASEAN, INTOSAI และ ASOSAI o พัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตร เช่น SNAO, GIZ และธนาคารโลก
4. ยกระดับธรรมาภิบาลภายในและความยั่งยืนขององค์กร (Internal Governance and Organizational Resilience) o ปรับระบบติดตามประเมินผล (M&E System) ให้โปร่งใสและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven ASEANSAI) o สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน (Sustainable ASEANSAI) และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
การเชื่อมโยงกับทิศทางการตรวจเงินแผ่นดินไทย ยุทธศาสตร์ใหม่นี้สอดคล้องกับนโยบายของ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งมุ่งเน้นให้การตรวจสอบของ สตง. ไทย ตอบสนองต่อประเด็นอุบัติใหม่ (Emerging Issues) เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้าง “คุณค่าและผลกระทบเชิงนโยบาย (Value and Impact)” ต่อประชาชน นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มุ่งสู่ “การตรวจเงินแผ่นดินดิจิทัล เพื่อธรรมาภิบาลและความยั่งยืน (Digital Audit for Good Governance and Sustainability)” และสอดรับกับบทบาทของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะประธานคณะทำงานว่าด้วยการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมขององค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ (INTOSAI WGEA) ที่เป็นผู้นำด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเวทีโลก
มติการประชุมที่สำคัญ • เห็นชอบ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2025 ของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด • อนุมัติ แผนยุทธศาสตร์ ASEANSAI 2026–2029 • รับรองการแก้ไขระเบียบ ASEANSAI ฉบับที่ 5 • เห็นชอบ กรอบการพัฒนาศักยภาพบุคลากร • แต่งตั้ง สตง. สิงคโปร์ เป็นประธาน ASEANSAI และ สตง. ไทย เป็น รองประธาน ASEANSAI วาระปี 2026–2027 ภายหลังการมีมติดังกล่าว นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในนามขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย ได้กล่าวขอบคุณที่ประชุมและกล่าวถ้อยแถลงว่าไทยจะทำงานใกล้ชิดกับประธาน ASEANSAI สำนักงานเลขาธิการ และประเทศสมาชิก ในการผลักดันการพัฒนาศักยภาพ การแบ่งปันองค์ความรู้ และการวิจัยร่วมกัน เพื่อรองรับความท้าทายด้านดิจิทัล เศรษฐกิจ และความยั่งยืน หลังการกล่าวถ้อยแถลง นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ปฏิบัติหน้าที่รองประธาน ASEANSAI และดำเนินการประชุม ร่วมกับ H.E. Ng Wai Choong ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสิงคโปร์ ในฐานะประธาน ASEANSAI จนเสร็จสิ้นการประชุมโดยสมบูรณ์
โครงการคู่ขนานสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ นอกจากการประชุมหลักแล้ว ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ (ASEANSAI Young Leaders’ Programme) ณ ศูนย์ฝึกอบรมของ สตง. สิงคโปร์ (AGO Academy) และ รัฐสภาสิงคโปร์ (Singapore Parliament) ภายใต้หัวข้อ “Building for the Future” เพื่อพัฒนาเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในภูมิภาคอาเซียน ในการนี้ นายพงศ์สวัสดิ์ มณีวงศ์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ สำนักการต่างประเทศ ในฐานะ Focal Person ของโครงการ Digital Transformation ในกรอบความร่วมมือ ASEANSAI ได้เข้าร่วมการประชุม นำเสนองาน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้แทนจากประเทศสมาชิก เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการตรวจสอบภาครัฐ
ก้าวต่อไป: สตง. ไทย เจ้าภาพ ASEANSAI Summit ครั้งที่ 9 ในปี พ.ศ. 2570 สตง. ไทย จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุม ASEANSAI Summit ครั้งที่ 9 โดยในการประชุมดังกล่าวจะมีการส่งมอบตำแหน่งประธาน ASEANSAI จาก สตง. สิงคโปร์ ให้แก่ สตง. ไทย และ สตง. ไทย จะดำรงตำแหน่งประธาน ASESNSAI เป็นระยะเวลา 2 ปี (พ.ศ. 2570 – 2572) นับเป็นโอกาสสำคัญที่ สตง. ไทย จะได้แสดงบทบาทนำในเวทีอาเซียน ควบคู่ไปกับบทบาทนำในเวทีโลกในฐานะประธานคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมขององค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ (INTOSAI WGEA) ในการขับเคลื่อนความร่วมมือของชาติสมาชิกเพื่อพัฒนาการตรวจสอบที่ตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างยั่งยืน รายงานโดย ว่าที่ ร.อ. ปิติคุณ นิลถนอม ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ สำนักการต่างประเทศ “สนับสนุน สร้างสรรค์ ทันโลก – Global Progression, Local Solution”
องค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย นำโดย นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และ นายคณพศ หงสาวรางกูร รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์กรตรวจเงินแผ่นดินแห่งอาเซียน (ASEANSAI Summit) ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม Parkroyal Collection Marina Bay สาธารณรัฐสิงคโปร์ วัตถุประสงค์ของการประชุม การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินงานขององค์กรในปี 2024 - 2025 และพิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่
1. รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2025 (Annual Results Report)
2. แผนยุทธศาสตร์ ASEANSAI 2026–2029
3. การปรับปรุงระเบียบและข้อบังคับ ASEANSAI ฉบับที่ 5 (Rules & Procedures 5th Revision)
4. กรอบการพัฒนาศักยภาพบุคลากร (Capacity Building Frameworks)
5. การแต่งตั้งประธานและรองประธาน ASEANSAI ชุดใหม่
6. การอนุมัติงบประมาณดำเนินงานปี 2026–2027
พิธีเปิดและการกล่าวต้อนรับ พิธีเปิดจัดขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 โดยได้รับเกียรติจาก • Ms. Indranee Rajah รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแห่งสิงคโปร์ กล่าวเปิดงาน • H.E. Ng Wai Choong ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสิงคโปร์ กล่าวต้อนรับในฐานะ รองประธาน ASEANSAI • ผู้แทน H.E. Gamaliel A. Cordoba ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินฟิลิปปินส์ และ ประธาน ASEANSAI กล่าวเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ
ยุทธศาสตร์ใหม่ของ ASEANSAI: มุ่งสู่ความร่วมมือ นวัตกรรม และความยืดหยุ่น ที่ประชุมเห็นชอบ แผนยุทธศาสตร์ ASEANSAI 2026–2029 ภายใต้แนวคิด “เสริมสร้างความร่วมมือ ส่งเสริมนวัตกรรม และยกระดับความยืดหยุ่นขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในภูมิภาค” (Strengthening Cooperation, Fostering Innovation, and Building Resilience) ยุทธศาสตร์ดังกล่าวมุ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล และการปรับตัวต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม โดยมีเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่
1. เสริมสร้างสมรรถนะและความพร้อมขององค์กรตรวจเงินแผ่นดิน (Collaborative and Responsive Capacity Development) o พัฒนาองค์ความรู้และทักษะของผู้ตรวจสอบให้เท่าทันเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Big Data, และระบบตรวจสอบดิจิทัล o ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกผ่าน e-learning และ ASEANSAI Academy
2. ยกระดับคุณภาพและความเข้มแข็งของการแบ่งปันองค์ความรู้ (Knowledge Sharing and Services) o สร้างแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เช่น Virtual Workshops, Cooperative Research, และ Webinars o เน้นหัวข้อ ประเด็นอุบัติใหม่ (Emerging Issues) เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล หนี้สาธารณะ และการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม
3. ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและนานาชาติ (Strategic Partnerships and Cooperation) o เชื่อมโยงยุทธศาสตร์กับกรอบการทำงานของ ASEAN, INTOSAI และ ASOSAI o พัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตร เช่น SNAO, GIZ และธนาคารโลก
4. ยกระดับธรรมาภิบาลภายในและความยั่งยืนขององค์กร (Internal Governance and Organizational Resilience) o ปรับระบบติดตามประเมินผล (M&E System) ให้โปร่งใสและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven ASEANSAI) o สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน (Sustainable ASEANSAI) และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
การเชื่อมโยงกับทิศทางการตรวจเงินแผ่นดินไทย ยุทธศาสตร์ใหม่นี้สอดคล้องกับนโยบายของ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งมุ่งเน้นให้การตรวจสอบของ สตง. ไทย ตอบสนองต่อประเด็นอุบัติใหม่ (Emerging Issues) เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้าง “คุณค่าและผลกระทบเชิงนโยบาย (Value and Impact)” ต่อประชาชน นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มุ่งสู่ “การตรวจเงินแผ่นดินดิจิทัล เพื่อธรรมาภิบาลและความยั่งยืน (Digital Audit for Good Governance and Sustainability)” และสอดรับกับบทบาทของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะประธานคณะทำงานว่าด้วยการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมขององค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ (INTOSAI WGEA) ที่เป็นผู้นำด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเวทีโลก
มติการประชุมที่สำคัญ • เห็นชอบ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2025 ของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด • อนุมัติ แผนยุทธศาสตร์ ASEANSAI 2026–2029 • รับรองการแก้ไขระเบียบ ASEANSAI ฉบับที่ 5 • เห็นชอบ กรอบการพัฒนาศักยภาพบุคลากร • แต่งตั้ง สตง. สิงคโปร์ เป็นประธาน ASEANSAI และ สตง. ไทย เป็น รองประธาน ASEANSAI วาระปี 2026–2027 ภายหลังการมีมติดังกล่าว นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในนามขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย ได้กล่าวขอบคุณที่ประชุมและกล่าวถ้อยแถลงว่าไทยจะทำงานใกล้ชิดกับประธาน ASEANSAI สำนักงานเลขาธิการ และประเทศสมาชิก ในการผลักดันการพัฒนาศักยภาพ การแบ่งปันองค์ความรู้ และการวิจัยร่วมกัน เพื่อรองรับความท้าทายด้านดิจิทัล เศรษฐกิจ และความยั่งยืน หลังการกล่าวถ้อยแถลง นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ปฏิบัติหน้าที่รองประธาน ASEANSAI และดำเนินการประชุม ร่วมกับ H.E. Ng Wai Choong ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสิงคโปร์ ในฐานะประธาน ASEANSAI จนเสร็จสิ้นการประชุมโดยสมบูรณ์
โครงการคู่ขนานสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ นอกจากการประชุมหลักแล้ว ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ (ASEANSAI Young Leaders’ Programme) ณ ศูนย์ฝึกอบรมของ สตง. สิงคโปร์ (AGO Academy) และ รัฐสภาสิงคโปร์ (Singapore Parliament) ภายใต้หัวข้อ “Building for the Future” เพื่อพัฒนาเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในภูมิภาคอาเซียน ในการนี้ นายพงศ์สวัสดิ์ มณีวงศ์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ สำนักการต่างประเทศ ในฐานะ Focal Person ของโครงการ Digital Transformation ในกรอบความร่วมมือ ASEANSAI ได้เข้าร่วมการประชุม นำเสนองาน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้แทนจากประเทศสมาชิก เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการตรวจสอบภาครัฐ
ก้าวต่อไป: สตง. ไทย เจ้าภาพ ASEANSAI Summit ครั้งที่ 9 ในปี พ.ศ. 2570 สตง. ไทย จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุม ASEANSAI Summit ครั้งที่ 9 โดยในการประชุมดังกล่าวจะมีการส่งมอบตำแหน่งประธาน ASEANSAI จาก สตง. สิงคโปร์ ให้แก่ สตง. ไทย และ สตง. ไทย จะดำรงตำแหน่งประธาน ASESNSAI เป็นระยะเวลา 2 ปี (พ.ศ. 2570 – 2572) นับเป็นโอกาสสำคัญที่ สตง. ไทย จะได้แสดงบทบาทนำในเวทีอาเซียน ควบคู่ไปกับบทบาทนำในเวทีโลกในฐานะประธานคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมขององค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ (INTOSAI WGEA) ในการขับเคลื่อนความร่วมมือของชาติสมาชิกเพื่อพัฒนาการตรวจสอบที่ตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างยั่งยืน รายงานโดย ว่าที่ ร.อ. ปิติคุณ นิลถนอม ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ สำนักการต่างประเทศ “สนับสนุน สร้างสรรค์ ทันโลก – Global Progression, Local Solution”
