2568-11-1 กรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (INCOSAI XXV) เป็นวันที่ 5
กรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (INCOSAI XXV) เป็นวันที่ 5
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติ เมืองชาร์ม เอล เชค สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ นางเกล็ดนที มโนสันติ์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (The Congress of INTOSAI – INCOSAI XXV) ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการหารือ และรับรองมติสำคัญขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินโลก การรับรอง “ปฏิญญาชาร์ม เอล เชค (Sharm El-Sheikh Declaration)”
กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมกับผู้นำองค์กรตรวจเงินแผ่นดินจากทั่วโลก พิจารณาและลงมติเห็นชอบให้รับรอง “ปฏิญญาชาร์ม เอล เชค (Sharm El-Sheikh Declaration)” ซึ่งจะเป็น “เข็มทิศนำทาง” ขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบภาครัฐในอนาคต โดยสรุปสาระสำคัญจากประเด็นการหารือหลัก (Technical Themes) ดังนี้
Theme I: บทบาทขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในการตรวจสอบธนาคารกลางและมาตรการของรัฐในภาวะวิกฤตทางการเงิน ที่ประชุมเน้นให้องค์กรตรวจเงินแผ่นดินทั่วโลกพัฒนาแนวทางการตรวจสอบเชิงป้องกันและแบบเรียลไทม์ (Preventive and Real-Time Audit) เพื่อสนับสนุนข้อมูลเชิงประจักษ์แก่ผู้กำหนดนโยบายได้อย่าง ทันกาล และรักษาสมดุลระหว่างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจกับความโปร่งใสทางการคลัง Theme II: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในงานตรวจเงินแผ่นดิน (Using Artificial Intelligence Techniques in Auditing) ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนแนวทางการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI และ Big Data Analytics มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และตรวจจับความผิดปกติของข้อมูล โดยย้ำว่า การใช้ AI ต้องอยู่ภายใต้ กรอบธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) และ หลักจริยธรรมของ AI (AI Ethics Framework) เพื่อให้ผลการตรวจสอบมีความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม พร้อมทั้งตระหนักว่า AI จะไม่มาแทนผู้ตรวจสอบ แต่จะทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยทางปัญญา” (Intelligent Assistant) ที่เสริมให้การตรวจสอบมีความรอบด้านและตอบสนองต่อสังคมได้อย่างทันกาล
นอกจากนี้ ปฏิญญา ชาร์ม เอล เชค ยังได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินทั่วโลก ให้มีบทบาทสำคัญในการสร้างธรรมาภิบาลที่เป็นธรรมและยั่งยืน โดยมีข้อเสนอแนะหลัก 5 ประการ คือ
1. สนับสนุนการสร้างองค์กรตรวจเงินแผ่นดินที่มีอิสระ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน และมีความเป็นมืออาชีพ
2. ร่วมกันรับมือกับความท้าทายข้ามพรมแดน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ของ INTOSAI
3. ส่งเสริมบทบาทขององค์กรตรวจเงินแผ่นดิน ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะการตรวจสอบประเด็นความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
4. สนับสนุนองค์กรตรวจเงินแผ่นดินให้มีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในยามวิกฤต
5. พัฒนาวิธีการตรวจสอบ เครื่องมือ และทักษะสมัยใหม่ เช่น การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
“ปฏิญญา ชาร์ม เอล เชค” จึงสะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ ยุคใหม่แห่งการตรวจเงินแผ่นดินที่เน้นนวัตกรรม ความคล่องตัว และครอบคลุมทุกมิติ โดยยังคงยึดมั่นในหลักการสำคัญของ INTOSAI คือ ความเป็นอิสระ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
สรุปภาพรวมการประชุมตลอด 5 วัน
โดยสรุป การประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (INCOSAI XXV) ปละการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลา 5 วัน เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศระหว่างองค์กรตรวจเงินแผ่นดินจากทั่วโลก โดยเน้นย้ำถึงแนวทางการปรับตัวขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินให้เท่าทันต่อความท้าทายด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมพิจารณาและลงมติในประเด็นสำคัญหลายประการ อาทิ การเห็นชอบรายงานของเลขาธิการและคณะทำงานต่าง ๆ ขององค์การ INTOSAI รวมถึงการมี ถ้อยแถลงของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไทย เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมในระดับโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากประเทศสมาชิกอย่างกว้างขวาง และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในบทบาทของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไทยในเวทีสากล
นอกจากนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไทย ยังได้ร่วมจัด บูธนิทรรศการร่วมกับ สตง. ฟินแลนด์ เพื่อเผยแพร่วิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินงานของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะประธานคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของ INTOSAI (INTOSAI WGEA)
รวมทั้งได้มีการหารือและสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคีกับหลายประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหพันธ์นักบัญชีระหว่างประเทศ (IFAC) เพื่อขับเคลื่อน รายงานความยั่งยืน (Sustainability Reporting) ในภาครัฐ
  
การให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศ
ในวันเดียวกันนี้ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (Egyptian National Television) โดยในการสัมภาษณ์ นางเกล็ดนที มโนสันติ์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการตรวจสอบภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ รวมถึงกล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง สตง. ไทย กับองค์กรตรวจเงินแผ่นดินนานาชาติ ภายใต้นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มุ่งสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบภาครัฐ ส่วน นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม (INTOSAI WGEA) ได้ให้สัมภาษณ์ถึง วิสัยทัศน์ “4C Framework” ในการนำชาติสมาชิก ซึ่งประกอบด้วย
Continue – สานต่อโครงการที่ประสบความสำเร็จ
Create – สร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่
Commit – มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของ INTOSAI ให้เป็นศูนย์กลางแห่งความรู้ที่ทุกประเทศเข้าถึงได้เท่าเทียม
Connect – เชื่อมโยงความร่วมมือกับองค์กรระดับโลกภายใต้ยุทธศาสตร์ Green Partner Strategy เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนร่วมกัน
ทั้งนี้ การสัมภาษณ์ดังกล่าวจะออกอากาศผ่านทาง โทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ทั้งในภาคภาษาอังกฤษและภาษาอาหรับ รวมถึงเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม (INTOSAI WGEA) อีกด้วย
การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้กับองค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย และยังเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้นำองค์กรตรวจเงินแผ่นดินทั่วโลก เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนางานตรวจเงินแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนต่อไป
ว่าที่ ร.อ. ปิติคุณ นิลถนอม ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ — รายงาน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติ เมืองชาร์ม เอล เชค สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ นางเกล็ดนที มโนสันติ์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (The Congress of INTOSAI – INCOSAI XXV) ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการหารือ และรับรองมติสำคัญขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินโลก การรับรอง “ปฏิญญาชาร์ม เอล เชค (Sharm El-Sheikh Declaration)”
กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมกับผู้นำองค์กรตรวจเงินแผ่นดินจากทั่วโลก พิจารณาและลงมติเห็นชอบให้รับรอง “ปฏิญญาชาร์ม เอล เชค (Sharm El-Sheikh Declaration)” ซึ่งจะเป็น “เข็มทิศนำทาง” ขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบภาครัฐในอนาคต โดยสรุปสาระสำคัญจากประเด็นการหารือหลัก (Technical Themes) ดังนี้
Theme I: บทบาทขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในการตรวจสอบธนาคารกลางและมาตรการของรัฐในภาวะวิกฤตทางการเงิน ที่ประชุมเน้นให้องค์กรตรวจเงินแผ่นดินทั่วโลกพัฒนาแนวทางการตรวจสอบเชิงป้องกันและแบบเรียลไทม์ (Preventive and Real-Time Audit) เพื่อสนับสนุนข้อมูลเชิงประจักษ์แก่ผู้กำหนดนโยบายได้อย่าง ทันกาล และรักษาสมดุลระหว่างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจกับความโปร่งใสทางการคลัง Theme II: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในงานตรวจเงินแผ่นดิน (Using Artificial Intelligence Techniques in Auditing) ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนแนวทางการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI และ Big Data Analytics มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และตรวจจับความผิดปกติของข้อมูล โดยย้ำว่า การใช้ AI ต้องอยู่ภายใต้ กรอบธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) และ หลักจริยธรรมของ AI (AI Ethics Framework) เพื่อให้ผลการตรวจสอบมีความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม พร้อมทั้งตระหนักว่า AI จะไม่มาแทนผู้ตรวจสอบ แต่จะทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยทางปัญญา” (Intelligent Assistant) ที่เสริมให้การตรวจสอบมีความรอบด้านและตอบสนองต่อสังคมได้อย่างทันกาล
นอกจากนี้ ปฏิญญา ชาร์ม เอล เชค ยังได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินทั่วโลก ให้มีบทบาทสำคัญในการสร้างธรรมาภิบาลที่เป็นธรรมและยั่งยืน โดยมีข้อเสนอแนะหลัก 5 ประการ คือ
1. สนับสนุนการสร้างองค์กรตรวจเงินแผ่นดินที่มีอิสระ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน และมีความเป็นมืออาชีพ
2. ร่วมกันรับมือกับความท้าทายข้ามพรมแดน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ของ INTOSAI
3. ส่งเสริมบทบาทขององค์กรตรวจเงินแผ่นดิน ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะการตรวจสอบประเด็นความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
4. สนับสนุนองค์กรตรวจเงินแผ่นดินให้มีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในยามวิกฤต
5. พัฒนาวิธีการตรวจสอบ เครื่องมือ และทักษะสมัยใหม่ เช่น การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
“ปฏิญญา ชาร์ม เอล เชค” จึงสะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ ยุคใหม่แห่งการตรวจเงินแผ่นดินที่เน้นนวัตกรรม ความคล่องตัว และครอบคลุมทุกมิติ โดยยังคงยึดมั่นในหลักการสำคัญของ INTOSAI คือ ความเป็นอิสระ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
สรุปภาพรวมการประชุมตลอด 5 วัน
โดยสรุป การประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (INCOSAI XXV) ปละการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลา 5 วัน เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศระหว่างองค์กรตรวจเงินแผ่นดินจากทั่วโลก โดยเน้นย้ำถึงแนวทางการปรับตัวขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินให้เท่าทันต่อความท้าทายด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมพิจารณาและลงมติในประเด็นสำคัญหลายประการ อาทิ การเห็นชอบรายงานของเลขาธิการและคณะทำงานต่าง ๆ ขององค์การ INTOSAI รวมถึงการมี ถ้อยแถลงของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไทย เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมในระดับโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากประเทศสมาชิกอย่างกว้างขวาง และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในบทบาทของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไทยในเวทีสากล
นอกจากนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไทย ยังได้ร่วมจัด บูธนิทรรศการร่วมกับ สตง. ฟินแลนด์ เพื่อเผยแพร่วิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินงานของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะประธานคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของ INTOSAI (INTOSAI WGEA)
รวมทั้งได้มีการหารือและสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคีกับหลายประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหพันธ์นักบัญชีระหว่างประเทศ (IFAC) เพื่อขับเคลื่อน รายงานความยั่งยืน (Sustainability Reporting) ในภาครัฐ
การให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศ
ในวันเดียวกันนี้ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (Egyptian National Television) โดยในการสัมภาษณ์ นางเกล็ดนที มโนสันติ์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการตรวจสอบภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ รวมถึงกล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง สตง. ไทย กับองค์กรตรวจเงินแผ่นดินนานาชาติ ภายใต้นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มุ่งสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบภาครัฐ ส่วน นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม (INTOSAI WGEA) ได้ให้สัมภาษณ์ถึง วิสัยทัศน์ “4C Framework” ในการนำชาติสมาชิก ซึ่งประกอบด้วย
Continue – สานต่อโครงการที่ประสบความสำเร็จ
Create – สร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่
Commit – มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของ INTOSAI ให้เป็นศูนย์กลางแห่งความรู้ที่ทุกประเทศเข้าถึงได้เท่าเทียม
Connect – เชื่อมโยงความร่วมมือกับองค์กรระดับโลกภายใต้ยุทธศาสตร์ Green Partner Strategy เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนร่วมกัน
ทั้งนี้ การสัมภาษณ์ดังกล่าวจะออกอากาศผ่านทาง โทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ทั้งในภาคภาษาอังกฤษและภาษาอาหรับ รวมถึงเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของคณะทำงานด้านการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม (INTOSAI WGEA) อีกด้วย
การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้กับองค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย และยังเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้นำองค์กรตรวจเงินแผ่นดินทั่วโลก เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนางานตรวจเงินแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนต่อไป
ว่าที่ ร.อ. ปิติคุณ นิลถนอม ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ — รายงาน













