2568-10-31 กรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (INCOSAI XXV) เป็นวันที่ 4
กรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ ครั้งที่ 25 (INCOSAI XXV) เป็นวันที่ 4 โดยร่วมอภิปรายประเด็นสำคัญในหัวข้อ “การตรวจสอบธนาคารกลางในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ” และ “การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในงานตรวจเงินแผ่นดิน”
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติ เมืองชาร์ม เอล เชค สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ นางเกล็ดนที มโนสันติ์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสถาบันการตรวจสอบสูงสุดนานาชาติ (The Congress of INTOSAI) ซึ่งเป็นเวทีหารือระดับโลกขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินจากกว่า 190 ประเทศ โดยในวันที่ 3 เป็นการร่วมอภิปรายประเด็นสำคัญในหัวข้อ “การตรวจสอบธนาคารกลางในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ” และ “การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในงานตรวจเงินแผ่นดิน”
Theme I: บทบาทขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินในการตรวจสอบธนาคารกลางและมาตรการรัฐในภาวะวิกฤตทางการเงิน (The Role of SAIs in Auditing Central Banks and Government Activities during Financial and Economic Crises)
ผู้แทนจากหลายประเทศเห็นพ้องว่า วิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจเป็นบททดสอบสำคัญของความโปร่งใสภาครัฐ องค์กรตรวจเงินแผ่นดิน (SAIs) จึงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบเชิงรุก เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการของธนาคารกลางและรัฐบาลเป็นไปตามกฎหมายและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ที่ประชุมเน้นว่าองค์กรตรวจเงินแผ่นดินควรพัฒนาแนวทาง “Preventive and Real-Time Audit” เพื่อให้การตรวจสอบในยามวิกฤตสามารถให้ข้อมูลแก่ผู้กำหนดนโยบายได้อย่าง ทันกาลและสร้างความเชื่อมั่นทางการคลังควบคู่กับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
Theme II: การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในงานตรวจเงินแผ่นดิน (Using Artificial Intelligence Techniques in Auditing)
หัวข้อนี้มุ่งเน้นแนวทางการนำ AI และ Big Data Analytics มาประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบภาครัฐ เพื่อตรวจจับความผิดปกติ วิเคราะห์ความเสี่ยง เสริมสร้างความเท่าเทียม และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานผู้ตรวจสอบ
ในการร่วมอภิปราย กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนจากหลายประเทศ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนา “องค์กรตรวจเงินแผ่นดินยุคใหม่” โดยที่ประชุมเห็นสอดคล้องว่า AI จะไม่มาแทนผู้ตรวจสอบ แต่จะเป็น “ผู้ช่วยทางปัญญา (Intelligent Assistant)” ที่ช่วยให้การตรวจสอบเป็นเชิงลึก รอบด้าน และ ทันกาล มากขึ้น ทั้งนี้ การนำ AI มาใช้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ กรอบธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) และ หลักจริยธรรมของ AI (AI Ethics Framework) เพื่อให้ผลการตรวจสอบมีความเป็นธรรม โปร่งใส และน่าเชื่อถือ
ทั้งสองประเด็นมีแก่นร่วมกันคือ “การตรวจสอบที่ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในภาครัฐ”
ซึ่งองค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทยสามารถนำมาพัฒนาการตรวจสอบ ตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และวิสัยทัศน์ของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น องค์กรตรวจเงินแผ่นดินเชิงรุกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven and Future-Oriented SAI)
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการแลกเปลี่ยนในวันนี้ จะถูกนำไปจัดทำเป็น “ปฏิญญาชาร์ม เอล เชค” (Sharm El-Sheikh Declaration) ซึ่งจะทำหน้าที่เสมือน “เข็มทิศนำทาง” ขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินสมาชิกในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบในอนาคต โดยกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน จะร่วมกับผู้นำองค์กรตรวจเงินแผ่นดินชาติสมาชิกพิจารณาและมีมติเห็นชอบปฏิญญาชาร์ม เอล เชค อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ตุลาคม 2568
ว่าที่ ร.อ. ปิติคุณ นิลถนอม
ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ - รายงาน




