สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเข้าร่วมการประชุม ASOSAI Working Group on Crisis Management Audit ครั้งที่ 3 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
 
ระหว่างวันที่ 26–27 สิงหาคม 2568 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดย นายสุทธิ สุนทรานุรักษ์ ที่ปรึกษาการตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมด้วย นางสาวชนากานต์ โภชฌงค์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ และ นางสาวพิมพ์ชนก ไก่งาม นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ สำนักการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุม ASOSAI Working Group on Crisis Management Audit (WGCMA) ครั้งที่ 3 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
ประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และมุมมองด้าน Crisis Management Audit กับประเทศสมาชิก ASOSAI WGCMA  ซึ่งมี สตง.เกาหลี (BAI) เป็นประธานคณะทำงานชุดนี้ นอกจากนี้ผู้แทนจาก สตง. นางสาวชนากานต์ และนางสาวพิมพ์ชนกได้นำเสนอผลงานวิชาการต่างประเทศเรื่อง Real-time, Right-time: Rethinking Health Crisis Auditing with AI
สำหรับการประชุมวันที่ 27 สิงหาคม 2568 คณะผู้แทน สตง.ไทย นำโดยนายสุทธิ สุนทรานุรักษ์ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยร่วมครั้งที่ 1 ของ ASOSAI WGCMA ได้รายงานความคืบหน้าของโครงการวิจับร่วมเรื่อง Joint Research Project on Enhancing Emergency Preparedness and Response in Agriculture ซึ่ง สตง.ไทยได้นำเสนอแนวคิด 3S Framework คือ Food Security, Food Safety, และ Food Sustainability
 
สรุปผลการประชุมASOSAI Working Group on Crisis Management Audit (WGCMA) ครั้งที่ 3
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
 
ผู้แทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้แก่ นายสุทธิ สุนทรานุรักษ์ ที่ปรึกษาการตรวจเงินแผ่นดิน นางสาวชนากานต์ โภชฌงค์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ และนางสาวพิมพ์ชนก ไก่งาม นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ สำนักการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยวันแรกของการประชุมมีสาระสำคัญที่สรุปได้ 10 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. WASH & Climate Resilience
 
Ms. Jinwon Yi ผู้แทนจาก WHO นำเสนอประเด็น Protecting Health through water, sanitation, and hygiene-Challemges and Opportunities โดยเน้นว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาด สุขาภิบาล และสุขอนามัย หรือ Water Sanitation and Hygiene หรือ WASH ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยามวิกฤติ เช่น โรคระบาด น้ำท่วม และภัยแล้ง 
 
ดังนั้น การตรวจสอบควรเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่
 
1.1 WASH in Care Facilities → ตรวจสอบความพร้อมเรื่องประสิทธิภาพของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลที่ต้องมีน้ำสะอาด จุดล้างมือ ห้องน้ำถูกสุขลักษณะ และระบบจัดการขยะติดเชื้อ
 
1.2 Climate-Resilient Sanitation → ตรวจสอบประเด็นระบบสุขาภิบาลที่ต้องทนทานต่อภัยพิบัติ ไม่ใช่เพียงมีโครงสร้างพื้นฐาน
 
2. Ten Commandments of Infectious Disease Prevention
 
Professor Kun Jun Wook นำเสนอหลัก 10 ประการของการป้องกันโรคติดเชื้อที่เป็นความเสี่ยงซึ่งเป็นภัยคุกคามของโลกยุคใหม่ โดยหลัก 10 ประการ เช่น assume worst-case scenario, practice in advance, invest in R&D, tolerate mistakes หลักการเหล่านี้สามารถนำมาเป็นเกณฑ์ตรวจสอบ (Audit Checklist) ของ Crisis Management Audit ได้เพื่อประเมินความพร้อมของรัฐบาลตั้งแต่การวางแผนล่วงหน้า การเตรียมทรัพยากร ไปจนถึงการเรียนรู้จากความผิดพลาด
 
3. Super Aging Society
 
ข้อมูลจาก Dr. Shin Jeong Woo ผู้เชี่ยวชาญด้าน Public Health ชี้ว่าภูมิภาคเอเชียกำลังก้าวเข้าสู่ยุค Super Aging ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายด้าน ได้แก่
 
3.1 Healthcare demand surge: ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพพุ่งสูง (dementia, chronic disease)
 
3.2 Fiscal sustainability: ค่าใช้จ่ายสุขภาพอาจเกิน 15% GDP ภายในปี 2050
 
3.3 Social inequality: ช่องว่างอายุขัยระหว่างคนรวย–จนถึง 10 ปี
 
3.4 Labor market change: อาชีพ Caregiver เพิ่มขึ้น และผู้หญิงจำนวนมากออกจากตลาดแรงงาน
 
ด้วยเหตุนี้ SAI ต้องมี Fiscal Stress Test และ Social Resilience Audit เพื่อตรวจสอบผลกระทบเชิงโครงสร้าง
 
4. OECD HSPA Framework 2024
 
กรอบ Health System Performance Assessment (HSPA) ของ OECD เวอร์ชันล่าสุดปี 2024 เน้น 5 มิติ: Health status, Access, Quality, Efficiency, Resilience & Sustainability
 
จุดเด่น คือ เพิ่มมิติ “Resilience & Sustainability” เป็น core dimension หลังบทเรียนจาก COVID-19 และ Aging
 
SAIs สามารถนำ HSPA มาเป็น เกณฑ์อ้างอิง (audit criteria) ในการตรวจสอบระบบสุขภาพของประเทศ
 
5. Five Keywords for New Audit Strategy
 
Dr. Shin Jeong Woo เสนอกรอบ Integration – Prevention – Performance – Sustainability – Resilience เพื่อเป็น Blueprint ของ Health Crisis Audit
 
Health Crisis Audit ควรเชื่อมโยงการตรวจสอบจาก policy → program → facility → citizen ซึ่งเน้นการป้องกันและการวัดผลลัพธ์จริง (health outcomes) ไม่ใช่เพียงการใช้จ่าย
 
 
6. People-centred Healthcare System
 
นอกจากนี้ Dr. Woo ยังกล่าวถึงแนวคิด “with the people ไม่ใช่ for the people” กล่าวคือ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมจริงในการออกแบบนโยบายสุขภาพ
 
ทั้งนี้เสาหลัก 3E ของ Health Crisis Audit ควรเน้น Effectiveness (เน้นป้องกัน), Efficiency (นวัตกรรมเพิ่มความคุ้มค่า), และ Sustainability (ความต่อเนื่องของการดูแล)
 
Dr. Woo ยังชี้ทิ้งท้ายน่าสนใจว่า SAI สามารถตรวจสอบได้ว่าเสียงของประชาชนถูกบรรจุอยู่ในนโยบายและการให้บริการหรือไม่
 
7. Early Warning & Innovation Tools
 
ประเด็น Wastewater & Environmental Surveillance (WES) สามารถใช้ตรวจหาเชื้อล่วงหน้า  ทำให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น ดังนั้นการรลงทุน R&D เรื่องนี้สามารถทำให้การวิจัยและสร้างนวัตกรรมปัจจัยหลักในการสร้าง resilience ที่ยั่งยืน
 
สำหรับ CMA Audit → SAIs ควรตรวจสอบว่ามีการลงทุนด้านวิจัยและเทคโนโลยีเพียงพอหรือไม่
 
8. International Cooperation & Benchmarking
 
ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึง WHO RegNet หรือ เครือข่ายกำกับดูแลน้ำดื่มระดับนานาชาติ ในอนาคต OECD HSPA ซึ่งเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบระบบสุขภาพข้ามประเทศ
 
SAI สามารถใช้เป็น benchmark และฐานข้อมูลเพื่อยกระดับมาตรฐาน CMA ในระดับภูมิภาค
 
9. Real-time, Right-time: Rethinking Health Crisis and Auditing with AI 
 
นางสาวชนากานต์ โภชฌงค์ และนางสาวพิมพ์ชนก ไก่งาม จากสำนักการต่างประเทศนำเสนอผลงานวิชาการด้านการต่างประเทศของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อง Real-time, Right-time: Rethinking Health Crisis and Auditing with AI (ผู้สนใจโปรดดู PPT ที่แนบมา) ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากประเทศสมาชิกคณะ ASOSAI WGCMA
 
 
10. ประโยชน์ต่อ สตง.ไทย และ ASOSAI WGCMA  ประโยชน์ต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
 
10.1 สามารถใช้แนวคิด WASH และ HSPA เป็นกรอบการพัฒนาเกณฑ์การตรวจสอบในอนาคต
 
10.2 พัฒนาเครื่องมือ Crisis Audit ที่สามารถสนับสนุนการตรวจสอบทั้ง “การคลัง–สุขภาพ–สังคม”
 
10.3 ยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ประโยชน์ต่อ ASOSAI WGCMA:
 
10.4 ASOSAI WGCMAได้กรอบร่วม (common framework) สำหรับ Crisis Management Audit ในอนาคต
 
10.5 หัวข้อ Joint Research ในอนาคต เช่น Super Aging, WASH resilience, People-centred healthcare audit
 
10.3 สร้างความร่วมมือระหว่าง SAI–WHO–OECD เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของงานตรวจสอบในระดับภูมิภาค
 
สรุป: การประชุมครั้งนี้ตอกย้ำว่า Crisis Management Audit มุ่งตรวจสอบ resilience ของระบบสุขภาพ การคลัง และสังคม โดยใช้กรอบสากล WASH, HSPA, Five Keywords และ People-centred Audit เป็นเครื่องมือใหม่ในการพัฒนา CMA ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย
 
Dr. Sutthi Suntharanurak
1
1
1
1