
นายสิทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการจ้างปรับปรุงถนนผิวจราจร แอสฟัลต์ คอนกรีต โครงสร้างขั้นพื้นฐานทางดินซีเมนต์ผสมน้ำยาเชื่อมประสาน หรือโพลิเมอร์ ตามบัญชีนวัตกรรมรหัส 010 10052 งบประมาณอุดหนุนเฉพาะกิจประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงินงบประมาณ 9.988 ล้านบาท ขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานีโดยพบข้อบกพร่องซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือประชาชน
ซึ่งการจัดทำถนนโดยใช้น้ำยาเชื่อมประสานหรือโพลิเมอร์ ทำให้ถนนแพงและไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้สั่งการตรวจสอบเป็นการเฉพาะ ซึ่งใน อบต.ทั่วประเทศในระหว่างปี 2566-2567 มีงบประมาณส่วนนี้ 748 กว่าล้านบาท ซึ่งมีการลงนามทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว และในปี 2568 มีการจัดสรรงบประมาณลงไปอีก 599 กว่าล้านบาท หรือเกือบ 600 ล้านบาทมีการลงนามแทนสัญญาไปแล้ว 100 กว่าล้านบาท แต่เมื่อ สตง.ลงไปตรวจสอบจึงไม่ได้ดำเนินการลงนามทั้งหมด และพบพิรุธ จากการตรวจสอบ สตง.พบว่าโครงการก่อสร้างถนนแอสฟัลต์ คอนกรีต โครงสร้างพื้นฐานด้วยดินซีเมนต์ผสมน้ำยาเชื่อมผสานตามนวัตกรรมไทย ในการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนเฉพาะกิจให้กับท้องถิ่น โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินประจำจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบการกระทำเอกสารของงบประมาณไม่ระบุวัตถุประสงค์หลักการเหตุผลที่ชัดเจนถูกต้อง การจัดทำรูปแบบรายงานและข้อกำหนดการก่อสร้างไม่เป็นไปตามมาตรฐานของทางราชการกำหนด การก่อสร้างหรือปรับปรุงถนน ด้วยวิธีการคัดเลือกอาจไม่สอดคล้องหรือไม่ถูกต้องตามที่กฎกระทรวงกำหนด เนื่องจากพบมีเพียงน้ำยาเชื่อมประสานหรือโพลิเมอร์เท่านั้นที่เป็นสินค้าหรือพัสดุตามบัญชีนวัตกรรมไทย และถูกใช้เป็นส่วนผสมสำหรับเฉพาะโครงสร้างชั้นพื้นทางดินซีเมนต์เพียงชั้นเดียว และสัดส่วนราคาน้ำยาเชื่อมประสานเพียงร้อยละ 23 ของราคาวงเงินสัญญาทั้งหมดและยังอาจเข้าข่ายเป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการอ้างถึงคุณสมบัติน้ำยาโพลิเมอร์ในการเพิ่มกำลังรับแรงอัดและช่วยลดการแตกร้าว
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่างานทางดินซีเมนต์ตามมาตรฐานทางหลวงท้องถิ่นที่ใช้บังคับกับ อปท. ได้ออกแบบให้มีความแข็งแรง หรือมีกำลังรับแรงอัดตามที่กำหนดจากการเลือกปริมาณปูนซีเมนต์ภายใต้การออกแบบดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องมีน้ำยาเชื่อมประสานหรือโพลิเมอร์ ยังพบว่าราคาค่าก่อสร้างหรือปรับปรุงถนนสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ สูงขึ้นประมาณร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับผิวจราจรแอสฟัลท์คอนกรีตชั้นพื้นทางหินคลุก อีกทั้งยังพบว่าในการควบคุมงานการตรวจรับพัสดุการบริหารสัญญาก็มีความเสี่ยงจะเกิดความผิดพลาดหรือข้อบกพร่อง เนื่องจากไม่เป็นไปตามมาตรฐานของทางราชการ สตงได้เก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566-2568 พบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานีได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจำนวน 28 โครงการรวมเป็นเงิน 275 ล้านกว่าบาท ซึ่งมีการดำเนินโครงการและปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างในลักษณะเดียวกัน โดยยังไม่รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นทั่วประเทศที่เมียนแนวโน้มได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปี 2568 ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจากข้อบกพร่องในการตรวจสอบ ก่อให้เกิดภาระการใช้จ่ายงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญและยังอาจเป็นการดำเนินการเกินความจำเป็นอีกด้วย
ข่าว nbt