สตง. ชี้แจงข้อสงสัยประเด็นมาตรฐานงานคอนกรีตดำเนินโครงสร้างตึกแห่งใหม่ หลังมีข้อสงสัยงานคอนกรีตไม่ได้มาตรฐาน
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินออกมาชี้แจงตามข้อสงสัย ในประเด็นเกี่ยวกับมาตรฐานงานคอนกรีต (Concrete) ที่ใช้ในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบนั้น สตง.ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับงานคอนกรีตผ่านเฟซบุ๊ก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ข้อความระบุว่า “ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับงานคอนกรีต
ตามที่ปรากฏข้อสงสัยในประเด็นเกี่ยวกับมาตรฐานงานคอนกรีต (Concrete) ที่ใช้ในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบนั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขอเรียนชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับงานคอนกรีต ดังนี้
1.ผู้รับจ้างก่อสร้าง (กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) มีหน้าที่โดยตรงตามสัญญาจ้างก่อสร้างที่ต้องดำเนินการก่อสร้างให้ถูกต้องตามข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญา รวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา โดยแบบรูปรายการก่อสร้างและรายการประกอบแบบ งานวิศวกรรมโครงสร้าง เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา และถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาในส่วนของ “งานคอนกรีต” มีข้อกำหนดให้ผู้รับจ้างก่อสร้างต้องส่งรายการคำนวณส่วนผสมให้ผู้รับจ้างออกแบบ (กิจการร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด) พิจารณาเห็นชอบ และให้มีวิศวกรลงลายมือชื่อรับรอง สำหรับในส่วนของ “การผสมเทคอนกรีต” ในการก่อสร้าง งานโครงสร้างต่าง ๆ ให้ใช้คอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mixed Concrete) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.213) อาทิ CPAC, TPI, บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด และยังรวมถึงมีข้อกำหนดให้สามารถใช้คอนกรีตอื่นได้หากไม่เหมาะสมจะใช้คอนกรีตผสมเสร็จ
2.ผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้ขออนุมัติวัสดุคอนกรีตผสมเสร็จ ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทีพีไอ คอนกรีต จำกัด ใช้สำหรับฐานรากและเสาเข็ม รวมทั้งงานโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ของอาคาร และงานพื้นคอนกรีตอัดแรง (Post-Tensioned Slab) ซึ่งมีวิศวกรโยธาระดับสามัญลงลายมือชื่อรับรองรายการคำนวณส่วนผสมคอนกรีต (Mix Design)นอกจากนี้ ผู้รับจ้างก่อสร้างได้ขออนุมัติวัสดุคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มเติม คือ ผลิตภัณฑ์ของบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด เนื่องจากมีปริมาณการใช้งานในโครงการมาก โดยมีการระบุว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทีพีไอ คอนกรีต จำกัด และบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ดังกล่าวได้รับการรับรองมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 213)
นอกจากกรณีข้างต้นแล้ว ผู้รับจ้างก่อสร้างได้มีการขออนุมัติวัสดุคอนกรีตผสมเสร็จ ค่ากำลังอัดทรงกระบอก 380 ksc. ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทีพีไอ คอนกรีต จำกัด ใช้สำหรับงานพื้นคอนกรีตอัดแรง (Post-Tensioned Slab) อาคาร TOWER ซึ่งค่ากำลังอัดที่ผู้รับจ้างก่อสร้างขออนุมัติดังกล่าวสูงกว่าข้อกำหนด ตามแบบรูปรายการก่อสร้างและรายการประกอบแบบที่กำหนดค่ากำลังอัดไว้ 350 ksc. (ทรงกระบอก)
3.ผู้รับจ้างก่อสร้างได้มีหนังสือ (Request For Information : RFI) ถึงผู้รับจ้างควบคุมงาน (กิจการร่วมค้า PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด) เพื่อขอความเห็นจากผู้รับจ้างออกแบบ เกี่ยวกับการขออนุมัติใช้วัสดุคอนกรีตผสมเสร็จ
ซึ่งเป็นกรณีตามข้อ 2. โดยผู้รับจ้างออกแบบแจ้งความเห็นเป็นหนังสือถึงผู้รับจ้างควบคุมงาน ว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของ Structure Criteria ตรงกับเอกสารประกอบ ซึ่งต่อมาผู้รับจ้างควบคุมงานจึงได้แจ้งเป็นหนังสือตอบกลับไปยังผู้รับจ้างก่อสร้าง ให้ดำเนินการตามที่ผู้รับจ้างออกแบบให้ความเห็นและ ใช้ในการทำงาน
4.ผู้รับจ้างควบคุมงาน ในฐานะตัวแทน สตง. ในการควบคุมงานก่อสร้าง และมีหน้าที่โดยตรงตามสัญญาจ้างควบคุมงานในการตรวจสอบการขออนุมัติใช้วัสดุและตรวจสอบการทดสอบวัสดุ ได้รายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเสนอมายังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ว่าได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ ที่ผู้รับจ้างก่อสร้างเสนอตรงตามแบบโครงสร้าง แผ่นที่ 50-01
และข้อกำหนดในรายการประกอบแบบงาน วิศวกรรมโครงสร้าง หมวดที่ 8 (งานคอนกรีต ข้อ 8.3.2 หน้า 3/7) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 213) สำหรับส่วนผสมคอนกรีต (Mix Design) เป็นไปตามข้อกำหนด และมีวิศวกรโยธาระดับสามัญรับรอง โดยเห็นควรอนุมัติผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จตามที่ผู้รับจ้างก่อสร้างเสนอ
5.ผู้รับจ้างก่อสร้าง ดำเนินการเพื่อทดสอบคุณภาพวัสดุคอนกรีต โดยส่งตัวอย่างคอนกรีต (ลูกปูน) ไปทดสอบที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ (KMUTNB) และกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในข่ายสถาบันตรวจสอบ (Testing Institution) ที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการทดสอบคุณภาพวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้างตามสัญญาได้ ตามข้อกำหนดในรายการประกอบแบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง หมวดที่ 1 มาตรฐานอ้างอิง (Reference Standards) ข้อ 1.2 ซึ่งเป็นเอกสารแนบท้าย สัญญาและถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา ทั้งนี้ ภายใต้การรับรองของ สตง.ในฐานะผู้ว่าจ้าง หรือผู้รับจ้างออกแบบ
โดยการเก็บตัวอย่างคอนกรีต (ลูกปูน) เพื่อทดสอบ ผู้รับจ้างก่อสร้างต้องเก็บทุกวันที่มีการเทคอนกรีต ซึ่งจะต้องมีการเก็บตัวอย่างไม่น้อยกว่า 6 ตัวอย่าง สำหรับทดสอบที่ 7 วัน และอีก 3 ตัวอย่างสำหรับทดสอบที่ 28 วัน โดยต้องมีค่ากำลังอัดประลัยของคอนกรีตสำหรับโครงสร้างเสา และผนัง 500 ksc. สำหรับโครงสร้างทั่วไป 350 ksc. และสำหรับฐานรากและเสาเข็ม 280 ksc.
6.ผู้รับจ้างก่อสร้างส่งมอบงานโดยแนบเอกสารรายงานผลการทดสอบคุณภาพคอนกรีต เพื่อประกอบการส่งมอบงานในแต่ละงวด โดยผู้รับจ้างควบคุมงาน ตรวจสอบรับรองความถูกต้องและครบถ้วนของงานที่ส่งมอบ ประกอบกับเป็นหน้าที่โดยตรงตามสัญญาจ้างควบคุมงานในการตรวจสอบการ ทดสอบวัสดุตามที่กล่าวไว้ในข้อ 4. โดยผู้รับจ้างควบคุมงานรายงานผลการส่งมอบงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นหนังสือเสนอมายังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
ซึ่งรวมถึงการรายงานต่อที่ประชุมในวาระการประชุมพิจารณาเพื่อตรวจรับงานในแต่ละงวด โดยปรากฏว่าผลการทดสอบคุณภาพคอนกรีตตามที่ผู้รับจ้างควบคุมงาน ได้มีการตรวจสอบรับรองและได้นำมารายงานเสนอเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุดังกล่าว เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญา รวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญาที่เกี่ยวข้องทุกประการ