เมื่อลงพื้นที่ อบต.ดังกล่าว ซึ่งเป็นวันหยุดทำการ พบว่าด้านหน้ามีรถดับเพลิงและรถราชการจอดอยู่หลายคัน ส่วนห้องทำงานทุกแห่งปิดล็อกกุญแจไว้ บริเวณหน้าห้องกองคลังมีป้ายปิดประกาศด้านหน้า ข้อความว่ากองคลัง อายัดเอกสารทางการเงินการคลังและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อสอบถาม ปลัด อบต. ได้รับการเปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวเป็นเรื่องจริง มีการยักยอกเงินของราชการไป เรื่องนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ นายก อบต.ได้ไปแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้วที่ สภ.กันทรลักษ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ปลัด อบต.เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีเงินหายไปจากระบบบัญชี 11 ล้านบาทเศษ ส่วนผู้กระทำผิดได้ไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ และได้รับอนุญาตให้ประกันตัวออกมา ขณะนี้พักอยู่บ้านพักส่วนตัวในเขต อ.กันทรลักษ์ ทั้งนี้ การตรวจเจอว่ามีการทุจริตในช่วงแรกนั้น เนื่องจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดศรีสะเกษ (สตง.) เข้ามาตรวจสอบการบริหารงานการเงินของ อบต. และได้ตรวจพบว่าไม่พบหลักฐานเอกสารการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจึงได้รู้ว่าเงินที่มีการเบิกจ่ายไปนั้น ไม่มีฎีกาการเบิกจ่ายเงินแต่อย่างใด
ปลัด อบต.กล่าวอีกว่า เอกสารไม่ได้หาย แต่ว่าไม่มีเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงิน มีแต่เช็คเท่านั้นที่เอาไปเบิกเงิน แต่ไม่มีเอกสารประกอบการเบิกจ่ายต่างๆ ขณะนี้นายก อบต.กำลังตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและได้ให้พนักงานจ้างคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากขาดงานเกินกำหนด ส่วนเรื่องการทุจริตการยักยอกเงินยังอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวน เรื่องนี้ สตง.จะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่ามีการนำเอาเอกสารการเงินออกไปหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบแต่อย่างใด
ขณะที่ ผอ.กองคลัง อบต.ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เรื่องนี้ สตง.เข้ามาตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินของ อบต. ซึ่ง สตง.แจ้งว่าผู้ก่อเหตุใช้สเตตเมนต์ปลอมมาทำงาน เมื่อสอบถามแล้วอ้างว่านำมาจากธนาคาร ส่วนที่แจ้งว่าเอกสารการเบิกจ่ายเงินต่างๆ หายไปนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะไม่พบเอกสารฎีกายอดจำนวนเงินที่หายไปแต่อย่างใด ซึ่งเอกสารฎีกาต่างๆ ที่หายไปนั้นผู้ก่อเหตุเป็นคนเก็บรักษา